Intro
คริสก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง
เขามั่นใจมาตลอดว่าตัวเองเป็นผู้ชายแท้ๆ
แมนทั้งแท่งแน่นอน แต่ไอ้อาการตอนนี้ที่มันบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากำลัง ‘มีอารมณ์’
กับผู้ชายด้วยกัน แบบนี้คืออะไรกันนะ
ถ้าจะให้ย้อนความซักนิด...
หลังจากโดนพี่รหัสตัวเตี้ยที่ยืนด้วยกันทีไรก็นึกว่ายืนอยู่กับฮอบบิทอย่าง
พยอนแบคฮยอน ชวนไปกินเหล้าที่ห้อง พอถามว่ากินเนื่องในโอกาสอะไร
ไอ้พี่พยอนแบคก็ตอบมานิ่งๆว่า ‘วันเกิด... เกิดอยากจะแดกเฉยๆนี่แหละ’
ด้วยความที่วันนั้นไม่มีนัดอะไรกับใครก็เลยตกลงไป
พอไปถึงห้องก็เจอแต่หน้าเดิมๆที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
จงอิน บุคคลที่มีใบหน้าง่วงงุนตลอดเวลา
เป็นน้องรหัสพี่คยองซูที่ในตอนนี้กำลังกัดกับไอ้พี่แบคฮยอนไปตามปกติ
และเซฮุนที่กำลังนั่งกดมือถือเงียบๆ เป็นน้องชายแท้ๆของคยองซู
ซึ่งอยู่คณะบริหารเหมือนกันกับผมนั่นแหละแต่คนละสาขาและเป็นเพื่อนสนิทกับจงอิน ไม่ยักกะเห็นพี่ชานยอลรูมเมทพี่แบคฮยอนแฮะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าตัวหายไปไหน
“เหนื่อยชิบหายยยยยยยยยย”
เสียงทุ้มโวยวายดังนำมาก่อนเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสียงใคร ชานยอลที่ในตอนนี้มีสภาพเหมือนผ่านศึกใหญ่หลวงเดินมาอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
หลังจากเห็นกลุ่มคนที่นั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นขายาวก็หยุดชะงัก
“แหม่
สภาพก็น่าเหนื่อยอยู่นะครับ ชิ่งผมไปขึ้นสวรรค์คนเดียว จัดว่าเลว”
แบคฮยอนแขวะหลังจากเห็นสภาพเพื่อนสนิท
“ไม่อิจฉาสิครับเพื่อน”
“แล้วเป็นไง คนนี้เด็ดปะวะ”
ชานยอลยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนตอบ “ก็พอตัวว่ะ”
“หมั่นไส้แม่งจริงๆ
จะแดกเหล้ามั้ย ถ้าแดกก็มา”
“เชิญพวกมึงตามสบายเหอะ กูไม่ไหวว่ะ
ง่วงมาก ขอนอนก่อน” ชานยอลโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป คงจะเหนื่อยมากจริงจัง
เพราะถ้าเป็นเวลาปกติหากเจ้าตัวมองเห็นจงอินคงไม่วายเข้ามาแกล้งทำกระลิ้มกระเหลี่ยใส่เรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นไปแล้ว
โอเค
เรื่องทุกอย่างมันดำเนินไปอย่างปกติจนกระทั่ง
“เห้ยพี่
ผมว่าผมลืมมือถือไว้บนห้องพี่ว่ะ”
ขณะที่ลงมาถึงหน้าหอของพี่แบคฮยอนแล้วคริสก็นึกขึ้นได้ว่าลืมมือถือไว้บนห้อง
หันไปมองเห็นคยองซูที่ซุกใบหน้าไว้ตรงซอกคอของแบคฮยอนอย่างหมดสภาพแล้วก็อดขำไม่ได้
ปกติสองคนนี้ตีกันอย่างกับอะไรดี
“เอ้า มึงนี่” แบคฮยอนส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะยื่นกุญแจห้องให้
แขนข้างหนึ่งยังโอบรอบเอวคยองซูเอาไว้ “เดี๋ยวกูไปส่งไอ้ดโยกลับห้องก่อน
มึงเอามือถือแล้วอย่าลืมล็อกห้องให้กูนะ”
“ครับๆ”
คริสรับคำก่อนจะย้อนกลับไปขึ้นลิฟท์
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว
ก็พบมือถือตัวเองนอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟา คริสจึงเดินไปหยิบแล้วเตรียมจะออกจากห้อง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
ตุ้บ!
เชี่ย แม่ร่วง เกือบกรี๊ดเลยทีเดียวเชียว
เป็นคนขวัญอ่อนครับ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่ชานยอลยังคงนอนอยู่ในห้องนี่หว่า
เสียงก็เหมือนดังมาจากในห้องพี่แกนั่นแหละ
ด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้ว่าเสียงนั้นคืออะไรจึงเคาะประตูไปสามครั้งพอเป็นพิธี
ผลคือไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก อ้าว ช่างเหอะ เปิดเลยละกัน
แกร๊ก
ประตูไม่ได้ล็อก พอเปิดเข้าไป
แสงสว่างจากภายนอกห้องก็ส่องเข้ามารางๆพอให้เห็นร่างคนที่กำลังนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
อ้าวเห้ย พี่ชานยอลตายยังวะนั่น นอนนิ่งเชียว คาดว่าน่าจะนอนดิ้นจนตกเตียง
คนอะไรตกเตียงเสียงดังตุ้บขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีก
ทันทีที่เปิดไฟ
คริสก็รู้สึกได้ว่าตัวเองพลาดแล้ว
คนที่นอนอยู่บนพื้นในตอนนี้มีสิ่งเดียวที่ติดกายอยู่คือบ็อกเซอร์ลายวันพีซ
คริสไม่เคยคิดมาก่อนว่าชานยอลจะผอมขนาดนี้ ทั้งๆที่ความสูงแทบจะไม่ต่างกันแต่คนที่นอนหลับอยู่กลับตัวบางกว่ามาก
แถมยังทั้งขาว ทั้งเนียน จนเขาเผลอจ้องอยู่อย่างนั้น ยิ่งมีรอยแดงๆซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรอยเล็บของฝากจากสาวที่ชานยอลเพิ่งไปฟาดฟันมาประดับแผ่นอกบางยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่แบบบอกไม่ถูก
อึก
กลืนน้ำลายทำไมวะไอ้คริส!
ร่างสูงส่ายหัวไปมาเรียกสติ
มองเตียงนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีขี้เกียจเต็มหัวเตียง
ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชานยอลจะมีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วย คริสอมยิ้มน้อยๆก่อนที่สมองฝั่งความดีจะสั่งการให้พาอีกคนขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆเถอะ
นอนพื้นแบบนี้ทั้งคืนคงปวดหลังแย่ โดยที่สมองฝั่งชั่วจะแย้งขึ้นมาเบาๆว่า
เปล่าหรอกคริส มึงไม่ได้เป็นคนดี มึงแค่อยากลองสัมผัสพี่เขาก็เท่านั้น
จะยังไงก็ตามแต่เถอะ
ในตอนนี้เขาจัดการอุ้มชานยอลขึ้นมาแล้วในท่าเจ้าสาว
ทำให้ได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากผิวกายอีกฝ่าย ตัวชานยอลนุ่มกว่าที่คิดไว้มาก
ถึงจะไม่นุ่มขนาดผู้หญิงก็เถอะแต่ถ้าได้จับ ได้ฟอนเฟ้นก็คงจะมันมืออยู่ไม่น้อยเลย
นี่กูคิดอะไรอยู่เนี่ย?
“อือ...”
ประเด็นคือ ไม่ใช่แค่คิดน่ะสิครับ
พอจัดการวางพี่ชานยอลลงบนเตียงแล้ว มือมันก็เผลอไปลูบไล้หน้าท้องขาวเนียนนั่นเฉยเลยจนได้ยินเสียงทุ้มห้าวครางออกมาแผ่วเบา
คริส มึงต้องตั้งสติ!
คริสดึงมือออกมา ก่อนจะหันไปพิจารณาใบหน้าแทนร่างกายขาวๆที่เปิดล่อตา
อืม... ขนตาเรียงกันเป็นแพ จมูกโด่งได้รูป ปากอวบอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่น
มันบ้ามากที่คริสคิดว่ามันโคตรน่าจูบ แต่จะว่าไปคริสก็ไม่เคยจ้องหน้าชานยอลใกล้ๆแบบนี้มาก่อนเลย
ที่ผ่านมาเวลาเจอๆหน้ากันก็ทักทายไปตามปกติ ไม่ได้สนใจจะสังเกตอะไร
รับรู้แค่ว่าเพื่อนสนิทของพี่รหัสตนเองนั้นก็หน้าตาใช้ได้ก็แค่นั้น
พอมามองใกล้ๆแบบนี้ มันเลยคำว่าใช้ได้ไปมากโขเลยล่ะ
ร่างสูงลุกขึ้นยืนนิ่ง
สงบความรู้สึกแปลกๆที่เริ่มก่อตัว
แต่ทว่าดูเหมือนคนที่อยู่ในห้วงนิทราจะไม่ให้ความร่วมมือเสียเลย
เมื่อจู่ๆก็พลิกตัวนอนตะแคงเอาขายาวๆไปพาดเกยหมอนข้างจนบ็อกเซอร์เลิกขึ้นสูงจนเห็นต้นขาขาว
โอ้ย... ไม่นะ
ความอึดอัดบางอย่างที่คริสรู้ดีว่ามันคืออะไรเริ่มเกิดขึ้นทีละน้อย
ไม่ใช่ เขาไม่ได้เมา คริสคอแข็งจะตายไป
วันนี้แค่ไม่กี่แก้วมันไม่กระเทือนเขาเท่าไหร่หรอก แต่สิ่งที่คริสไม่เข้าใจก็คือว่าทำไมตัวเองถึง
‘เกิดอารมณ์’ กับผู้ชายด้วยกันขึ้นมาซะได้
คริสถือคติที่ว่า เมื่อเกิดปัญหา
ต้องแก้ที่สาเหตุ
และสาเหตุที่ทำให้ลูกชายของคริสอึดอัดทรมานอยู่แบบนี้ก็คือคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่นี่ไง
ก็อยากนอนไม่ใส่เสื้อเองทำไมล่ะพี่ชานยอล เขาจะคิดว่านี่คือการยั่วก็แล้วกัน
ร่างสูงจัดการถอดกางเกงยีนส์สีดำเหวี่ยงทิ้งไปตรงไหนซักแห่งไม่ได้สนใจ
แล้วกระโจนขึ้นคร่อมคนที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ถ่งไม่ถอดเสื้อแม่งแล้ว
จัดการพลิกตัวอีกฝ่ายนอนหงายแล้วซุกไซร้ซอกคอ จูบวน ดูดดึงผิวเนื้อขาวๆจนขึ้นรอย
“อื้อ...มินอาอย่าซน”
ได้ยินเสียงทุ้มครางเบาๆแล้วพึมพำอะไรไม่รู้คริสก็ผงะออกมาอย่างตกใจ
คิดว่าจะตื่น แต่สิ่งที่เห็นก็แค่เปลือกตาสีมุกขยับยุกยิกแค่นั้น
แล้วก็จมอยู่ในนิทราต่อจนคริสยิ้มออกมา จะโดนลักหลับยังไม่รู้ตัวอีก ด้วยความหมั่นเขี้ยวเลยจัดการจูบปากอิ่มที่ลอยเด่น
แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนที่คิดว่านอนหลับอยู่กลับจูบตอบมาซะอย่างนั้น
ปลายลิ้นตวัดเกี่ยวกันแลกเปลี่ยนความหวานอย่างไม่มีใครยอมใคร
จูบย้ำๆ จนกระทั่งผละออกมาแล้ว
เปลือกตาคู่นั้นก็ยังคงปิดสนิท คริสจึงแนบริมฝีปากลงบนแก้มนุ่ม
ไล่มาขบเม้มติ่งหูก่อนจะพูดกระซิบ
“ถ้าพี่ไม่ตื่นมาขัดขืนผม
ผมจะไม่ทนแล้วนะ”
มือหนาทั้งสองข้างฟอนเฟ้นจนผิวเนื้อขาวแดงขึ้นมาตามสัมผัสที่หนักหน่วง
ไล่กดจูบลงมาตั้งแต่สันกรามเรื่อยจนถึงแผ่นอกบาง
สร้างรอยจูบสีกุหลาบไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน
“อะ...อือ” เสียงทุ้มที่ครางหวิวและแผ่นหลังที่หยัดขึ้นจากเตียงน้อยๆทันทีที่คริสใช้ปากครอบครองยอดอกกำลังทำให้คริสแทบบ้า
“ขอโทษนะพี่
ผมว่าผมไม่ไหวแล้วว่ะ”
พูดจบก็จัดการดึงรั้งบ็อกเซอร์อีกฝ่ายโยนทิ้งไป
ไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดีอะไรแล้วตอนนี้ ไม่สนว่าพรุ่งนี้ตื่นมาเขากับชานยอลจะเป็นยังไง
คริสรู้ดีว่ามันเห็นแก่ตัวมากแต่ตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
น้ำสีขาวขุ่นที่ปริ่มอยู่ส่วนปลายทำให้รู้ว่าคนที่นอนหลับก็มีอารมณ์ที่ไม่ต่างกัน
เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะทำอะไรแบบนี้ แหงล่ะ ผ่านผู้หญิงมามากหน้าหลายตา
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว แต่ว่าชานยอลกลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ริมฝีปากบางเฉียบก้มลงครอบครองที่ส่วนกลางลำตัวของคนหลับลึกอย่างไม่นึกรังเกียจ
ปลายลิ้นตวัดหยอกล้อก่อนจะครอบครองอีกครั้ง รูดขึ้นลงช้าๆจนสะโพกนิ่มส่ายไปมาเบาๆ
คริสใช้มือล็อคเอวที่ติดจะบางเอาไว้ก่อนจะเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ยังไม่ทันที่คนนอนหลับจะได้ปลดปล่อย คริสก็ผละออกเสียก่อนและกดจูบไปที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง
โดยมือหนาก็ลงไปกอบกุมตรงส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายแล้วขยับขึ้นลงจนกระทั่งคราบน้ำรักถูกปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือหนา
และคราบบางส่วนที่พุ่งมาติดอยู่บนเสื้อของเขาเอง
ไม่รอช้า
คริสจัดการป้ายน้ำรักไปตรงช่องทางที่คริสมั่นใจว่าไม่เคยมีใครผ่านมาก่อนเขาอย่างแน่นอน
เพียงแค่จินตนาการว่าตัวเขาเข้าไปอยู่ในร่างกายของชานยอลลูกชายของเขาก็ปวดหนึบขึ้นมาซะแล้ว
คริสพึมพำว่าขอโทษก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะสอดเขาไปเพื่อเป็นการเบิกทาง
มันค่อนข้างจะฝืดเคืองจนร่างโปร่งกระตุกน้อยๆ สะโพกเริ่มส่ายไปมาทันทีที่นิ้วเรียวยาวเริ่มขยับเข้าออก
“อ่ะ...”
เมื่อเห็นว่าเริ่มขยับได้ง่ายขึ้นคริสก็เพิ่มจำนวนเป็นสองนิ้วและสามนิ้วตามลำดับ
กดจูบซับน้ำตาที่ซึมออกมาจากหางตาของชานยอลอย่างปลอบประโลม
ใบหน้าของร่างโปร่งส่ายไปมา ร่างกายสั่นสะท้านอย่างทรมานจนคริสนึกสงสาร ชานยอลคงจะเจ็บมาก
แน่ล่ะ นี่เป็นครั้งแรกแถมเจ้าตัวยังเป็นผู้ชาย เคยได้ยินมาเหมือนกันว่ามันเจ็บน่าดูเลย
ถามว่าคริสรู้สึกผิดมั้ยก็รู้สึกผิดนะ
แต่ถ้าจะบอกให้หยุดตอนนี้
ขอบอกเลยว่าไม่มีทาง
ขอโทษจริงๆนะพี่ คราวหน้า(?)ผมจะเตรียมความพร้อมไว้อย่างดีและจะไม่ทำให้พี่ต้องเจ็บมากอย่างคราวนี้แน่นอน
จนกระทั่งนิ้วเรียวยาวถูกแทนที่ด้วยแก่นกายที่ขยายใหญ่
นอกจากร่างกายที่เกร็งกระตุกขึ้นมาแล้ว ชานยอลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว
หลับเหมือนตายเลยแฮะ ทันทีที่เข้าไปจนสุดความยาวคริสก็แทบจะปลดปล่อยออกมา เกิดความรู้สึกวาบหวามจากความอุ่นร้อนและคับแน่นชวนอึดอัด
แต่มันดี... ดีมากจริงๆ ไม่คิดเลยว่าช่องทางของชานยอลจะให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยมได้ถึงขนาดนี้
อันที่จริงพอลองมาทำแบบนี้กับผู้ชายดูแล้ว
มันก็ไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่เคยคิดเลย
จะว่าละเมอไม่รู้ตัวหรือเพราะอะไรก็ตาม
ชานยอลตอบสนองเขาทุกอย่างด้วยเสียงครางเครือในทุกจังหวะที่กดกายย้ำลงไป ผสานกับเสียงครางด้วยความสุขสมของเขา
จนคริสมีความคิดว่าถ้าได้เห็นดวงตากลมโตที่ฉ่ำปรอยไปด้วยแรงอารมณ์มองเขามาในเวลานี้
ในตอนที่เขายังอยู่ในตัวอีกฝ่ายแบบนี้ มันจะดีแค่ไหนนะ...
คริสยกขาเรียวยาวขึ้นพาดบ่ากว้างก่อนจะส่งจังหวะรวดเร็วจนคนใต้ร่างสั่นคลอนไปตามจังหวะกระแทกกระทั้น
ก่อนจะผละร่างกายออกมาเล็กน้อยเพื่อพลิกให้อีกฝ่ายนอนคว่ำ
รั้งสะโพกอวบอิ่มขึ้นสูงแล้วจัดการกระแทกกายลงไปใหม่ถี่ๆ
กดจูบลงไปตรงแผ่นหลังขาวเนียนซ้ำๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
ในที่สุดร่างกายของเขาก็ปลดปล่อยความต้องการออกมาเต็มช่องทางรัก แต่ไม่หรอก
แค่นี้มันยังไม่พอ
ให้ตาย...
ร่างกายของพี่มันทำให้ผมหลงใหลเข้าแล้วจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น